อันดับซูชิที่ได้รับความนิยม
- 1ปลาทูน่าไขมันกลาง (ชูโทโร่)
- 2ปลาแซลมอน
- ปลาทูน่าสับใส่ต้นหอม
- ไข่ปลาแซลมอน
- หอยเม่น
- ปลาทูน่าไขมันมาก (โอโทโร่)
- ปลาไหล
- กุ้งหวาน
- ปลาทูน่า
- ปลาหมึก
เมื่อพูดถึง “Sushi” ก็หมายถึงตัวแทนของอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในโลกทุกวันนี้ ขนาดที่พูดไปก็สามารถสื่อเข้าใจได้เลย ที่นอกประเทศญี่ปุ่น ซูชิแสดงถึงพัฒนาการเฉพาะที่สะท้อนวัฒนธรรมทางอาหารของแต่ละประเทศอย่างอโวกาโด ชีส หรือกุ้งทอด เป็นต้น แม้ในต่างประเทศก็สามารถรับประทานได้สบายๆ ตามร้านอาหารญี่ปุ่น หรือบาร์ซูชิ
เป็นของที่อยากให้ลองลิ้มรสซูชิดั้งเดิมให้ได้หากมาเยือนญี่ปุ่น ในญี่ปุ่น นอกจากร้านซูชิดั้งเดิมที่หน้าเค้าท์เตอร์ พ่อครัวจะปั้นซูชิที่สั่งให้แล้ว มีร้านซูชิจานหมุนซึ่งมีจานที่ใส่ซูชิอยู่หมุนบนสายพานด้วยราคาย่อมเยาว์ และเนื่องจากมีร้านซูชิหลากหลาย เช่นร้านราคาถูกที่นำกลับบ้านได้อย่างเดียว จึงสามารถเลือกปรับได้ตามงบประมาณที่มี
ที่หน้าเค้าท์เตอร์ หรือโต๊ะ ด้านหน้าจะมีสายพานติดตั้งแล้วมีจานที่ใส่ซูชิวางอยู่แล้วหมุนวนอยู่ เป็นรูปแบบร้านซูชิราคาประหยัดแบบกึ่งบริการตนเองที่สามารถหยิบจานซูชิที่อยากกินได้ด้วยตนเอง
เป็นเมนูที่วางเรียงปลาสำหรับปั้นซูชิหน้าต่างๆ (เนื้อปลาดิบ) มีเครื่องต่างๆ ประดับอยู่บนข้าวซูชิ
ซูชิประเภทที่อัดแน่นไปด้วยข้าวอยู่ข้างในแผ่นเต้าหู้ทอดน้ำมันที่ต้มแบบหวานๆ เค็มๆ ซึ่งถูกเรียกว่า “โออินาริซัง” “โออินาริ” หรือ “อินาริ”
เป็นของที่เอาข้าวกับเครื่องมาซ้อนกันแล้วออกแรงกดในระยะเวลาหนึ่ง มีทั้งซูชิปลาทูกดอัดที่มีทั่วไปของโอซาก้า หรือซูชิปลาทูแบบเป็นแท่งของเกียวโตะ
ซูชิที่วางข้าวหุงด้วยน้ำส้มบนสาหร่าย แล้ววางเครื่องอย่างแตงกวาหรือแตงไว้ด้านบนแล้วใช้แผ่นม้วนเอา มีหลายชนิดตามความอ้วนเช่น “ม้วนเล็ก” “ม้วนกลาง” “ม้วนใหญ่”
เป็นของที่ม้วนมือหรือม้วนกลับ (ให้ด้านนอกเป็นข้าวน้ำส้ม สาหร่าย และเครื่องตามลำดับ) อย่างลูกชิ้นปลารสปู อโวกาโด มายองเนส งาขาว เป็นต้น ในต่างประเทศก็เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมาก
ที่เอเชียอาคเนย์ราวๆ ก่อนยุคศตวรรษที่ 4 มีการเก็บรักษาอาหารโดยการนำปลามาหมักในข้าวและเกลือ ข้าวนี้เป็นเพียงของที่ใช้สำหรับเก็บรักษาปลา และจะถูกทิ้งไปไม่ได้กิน วิธีการเก็บรักษาปลานี้ก็ส่งผ่านไปยังญี่ปุ่น ในสมัยเฮอัน ก็ถูกกินกันในนามของ “นาเระซูชิ” ชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบข้าวก็นำข้าวมากินพร้อมกับปลาโดยไม่ทิ้งราวๆ สมัยมุโระมาจิ ต่อมาในสมัยเอโดะก็มีการเสนอฮายาซูชิ โดยเลิกการหมัก และนำน้ำส้มสายชูมาผสมทำให้ข้าวมีรสเปรี้ยว
ปลายสมัยเอโดะ (ต้นศตวรรษที่ 19) กำเนิด “ข้าวปั้นซูชิ” ในเอโดะ ดังนั้นแม้ในปัจจุบันก็มีคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ที่ยอมรับว่าหากพูดถึงซูชิหน้าเอโดะก็เรียกว่าข้าวปั้นซูชิ หากพูดถึงโอซาก้าซูชิก็หมายถึงซูชิกล่อง (โอชิซูชิ)* แต่มีอีกความหมายหนึ่งในคำว่าซูชิหน้าเอโดะ มีความหมายว่าซูชิที่ใช้สาหร่ายหรือปลาที่จับได้ที่หน้าเมืองเอโดะหรืออ่าวโตเกียวทั้งนั้น
~tag0